..." กาลเวลาที่น่าจดจำ "...

ทุกช่วงเวลาที่ดี คือ การที่เราเป็นเพื่อนกัน และเพื่อนก็ไม่มีวันทึ่จะทิ้งกัน จำไว้....

...รักเพื่อนทุกคนนะ....

เพื่อน เราสามารถหาได้ทุกที่ แต่...............................

เพื่อนแท้ เราจะหาได้จากไหน..................................

ทุกครั้งถามตัวเองมาตลอด.......................................

แต่...ตอนนี้รู้แล้วว่า...หาได้จากห้อง 2/3 แผนก คอมพิวเตอร์แน่นอน..................


""""""""ทุกครั้งที่น้ำตาไหลและใจสับสน""""""""

................รู้ไหมใครอยู่ในใจฉันเสมอ.................

..............ก็จะใครเล่ามีแต่เจ้าเพื่อนเกลอ................

...........มันชอบเข้ามาละเมอเพ้อพบให้เฮฮา.............

......................................เพื่อน........................................
.............................มันมีเหตุผลหลายอย่าง ...............................
...................ที่เราจำเป็นต้องหักห้ามใจไม่ให้รักใครสักคน...................
........................เหตุผลของคนเราย่อมไม่เหมือนกัน.........................
...............บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะรู้ตัวว่ามันคงเป็นไปไม่ได้..............
.............................บางคนอาจต้องห้ามใจ..................................
..............เพราะกลัวใจตัวเองจะถลำลึกและเจ็บปวดมากไปกว่านี้................
.............บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะมีคนที่รักคนที่เรารักมาก่อน................
....และคนคนนั้นก็คือคนที่เรารู้จักและเราก็ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของคนคนนั้น..
.........บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะเขาอาจไม่ได้คิดและรู้สึกเหมือนกับเรา........
.........................ทุกข์ทรมานแค่ไหนที่เรารักเขา..............................
.....................แต่ต้องพยายามฝืนใจถอยห่างออกมา...........................
......เราต้องเงียบ ต้องเฉยชา ต้องเลี่ยง ต้องหลบหน้า ต้องทำหน้าตาบึ้งตึงใส่.......
................เพื่อจะย้ำเตือนให้ตัวเองไม่ต้องรู้สึกอะไรใดๆ.......................
...........กับเขามันเจ็บแทบบ้าที่ต้องทำร้ายตัวเองด้วยวิธีการนี้....................
.......แม้จะดูเป็นวิธีการโง่ๆ แต่หากจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องตัวเอง...............
....................เพื่อไม่ให้ใจของตัวเองต้องบาดเจ็บ.............................
..........ความหวัง เป็นเหมือนกำลังใจแต่มันก็จะไม่สมหวังเช่นกัน...............
............ถ้ามัวแต่หวังอยู่อย่างนั้นแต่ก็ใช่ว่า เมื่อก้าวเดินตามฝัน.................
......หรือทำตามความหวังแล้วมันจะสำเร็จตามที่ใจต้องการเสมอไป.............
.....สำหรับบางอย่าง มันก็ต้องเผื่อใจไว้บ้างมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น............
...........มันอาจจะไม่เป็นอย่างนี้อย่างที่เราต้องการให้มันเป็น...................

ในปี ค.ศ. 1972 Dennis Ritchie เห็นผู้คิดค้นสร้างภาษาซีขึ้นเป็นครั้งแรก โดยพัฒนามาจากภาษา B และภาษา BCPL แต่ในขณะนั้นยังไม่มีการใช้งานภาษาซีอย่างกว้างขวางนัก จนกระทั้งต่อมาในปี ค.ศ. 1972 Brain Kernighan
ได้ร่วมกับ Dennis Ritchie พั๖นามาตรฐานของภาษาซีขึ้น เรียกว่า K&R (Kernighan&Ritchie) และเขียนหนังสือชื่อ
"The C Programming Language" ออกมาเป็นเล่มแรก ทรให้เริ่มมีผู้สนใจภาษาซีเพิ่มมากขึ้น และด้วยความยืดหยุ่นของภาษาซีที่สามารถประบใช้งานกับคอมพิวเตอร์ชนิดต่างๆ ได้ ทำหใภษาซีได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนแพร่หลายไปทั่วโลก
จนมีบริษัทต่างๆ สร้างและผลิตภาษาซีออมมาเป็นจำนวนมาก เกิดเป็นภาษาซีในหลากหลายรูปแบบ เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับการสร้างภาษาซี ดังนั้นในปี ค.ศ. 1988 Ritchie และ Kernighan จึงได้ร่วมกับ
ANSI (American National Standards Institute)
สร้างมาตรฐานของภาษาซีขึ้น เรียกว่า ANSI C เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดมาตรฐานในการสร้างภาษาซีรุ่นต่อๆ ไป

ในปัจจุบันภาษาซียังคงได้รับความนิยมและใช้งานอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นภาษาระดับกลาง (middle-level language) ที่เหมาะกับการเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง (structurde programming) และเป็นภาษาที่มีความยืดหยุ่นมาก คือ ใช้งานกับเครื่องต่างๆ ได้ และที่สำคัญในปัจจุบันภาษาโปรแกรมรุ่นใหม่ เช่น c++,perl,Java,C# ฯลฯ ยังใช้หลักการของภาษาซีเป็นพื้นฐานด้วย กล่าวคือ หากมีพื้นฐานของภาษาซีมาก่อน ก็จะสามารถศึกษาภาษารุ่นใหม่เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น